เวลาใส่กระโปรงสั้นแล้วสาว ๆ มองเห็นเรียวขาหรือบริเวณมีเส้นเลือดขอดคดไปมา สิ่งแรกที่สาว ๆ นึกถึงคืออะไร เชื่อว่าหลายคนต้องรู้สึกว่ามันเป็นภาพที่ไม่น่ามองและไม่อยากเกิดขึ้นกับตนเอง รู้หรือไม่ว่าการที่เส้นเลือดขอดนี้ถือเป็นโรคชนิดหนึ่ง ทางการแพทย์มีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Varicose veins ขณะที่ภาษาไทยมีคำเรียกที่หลากหลายอย่างเส้นเลือดขอด หลอดเลือดขอด หลอดเลือดดำขอด หรือแม้แต่หลอดเลือดขอดที่ขา ทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไรก็ตามล้วนก็เป็นโรคที่เกิดจากเลือดดำคั่งค้างอยู่ในหลอดเลือดดำ ทำให้เส้นเลือดดำขยายตัวออก โป่งพองจนในที่สุดก็ขดไปมา สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนในร่างกาย เพราะฉะนั้น ลองมาทำความรู้จักกับต้นตอของโรคนี้เพื่อที่จะทำการรักษาได้อย่างถูกต้องกันเลยดีกว่า
แม้ว่าโรคเส้นเลือดขอดจะเป็นโรคของผู้ใหญ่หรือโรคที่เกิดในผู้สูงอายุก็ตาม แต่ก็เป็นโรคที่พบได้บ่อยและมีโอกาสการเกิดกับทุกคน แต่ที่มักจะพบได้บ่อยและจำนวนมากที่สุดก็คือผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 3 เท่า โดยเฉพาะสาวอวบอ้วน, คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ แล้วยังรวมไปถึงคนที่ต้องยืนทั้งวันและยกของหนักด้วย และเมื่อแยกการเกิดโรคจากเพศและอายุจะพบความสนใจของการเป็นโรคเส้นเลือดขอดคือ ผู้หญิงที่มีอายุ 60-69 ปี จะเป็นโรคนี้กว่า 72% แต่กลับพบในผู้ชายวันเดียวกันเพียง 1% เท่านั้น
การเป็นเส้นเลือดขอดนี้นอกจากจะขึ้นอยู่กับกับอายุและเพศแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมด้วย ถ้ามีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ก็มักจะมีสิทธิ์เกิดขึ้นเช่นกัน แถมยังเป็นร่วมกับโรคเส้นเลือดฝอยที่ขาอีกด้วย แต่มีขนาดเล็กกว่าเนื่องจากเป็นกับเส้นเลือดดำที่อยู่ตื้นใต้ผิวหนัง ทำให้เห็นเป็นเส้นเลือดเล็ก ๆ ยิบ ๆ มีหลายสีทั้งสีแดง สีเขียว และสีม่วง สามารถเกิดในทุกส่วนของร่างกายได้เช่นกัน มักจะพบบ่อยได้จากใบหน้า ต้นขา และน่อง
ในร่างกายของทุกคนมีกลไกการทำงานของอวัยวะและมีความเสื่อมสลายลง สำหรับการเกิดเส้นเลือดขอดนั้นมีสาเหตุมาจากลิ้นเล็ก ๆ ที่อยู่ในเส้นเลือดดำเสื่อมประสิทธิภาพลง ลิ้นเล็ก ๆ ที่มีอยู่จำนวนมากนั้นมีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดดำ โดยป้องกันและปิดกั้นไม่ให้เลือดดำจากขาไหลย้อนต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ทำให้เกิดแรงบีบของกล้ามเนื้อบริเวณเท้าไปเพื่อที่จะนำเอาเลือดดำไหลกลับไปสู่หัวใจ ก่อนที่จะกลับลงมาคั่งที่ขา และเมื่อลิ้นเหล่านี้เสื่อมประสิทธิภาพลง การไหลเวียนของเลือดดำก็จะสูญเสียไป ทำให้เกิดเลือดกำคั่งอยู่ในหลอดเลือดดำนั่นเอง แรงดันในเส้นเลือดนั้นก็จะเพิ่มกำลังมากขึ้น ทำให้ผนังเส้นเลือดดำยืดออก มีความหย่อนคล้อยลง โป่งพองออกมากขึ้นจนกลายเป็นเส้นเลือดขอดขึ้นมาให้เห็น
สำหรับการเสื่อมสภาพของลิ้นนี้เกิดมาจากอายุการใช้งาน พันธุกรรม และลิ้นผิดได้ไม่สนิท ซึ่งสาเหตุทั้งหมดทำให้เสื่อมสภาพได้ มีโอกาสเกิดร่วมกันได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะกลายเป็นความเรื้อรังทำให้การทำงานของลิ้นเล็ก ๆ ในหลอดเลือดดำนั้นบกพร่องลงไปเรื่อย ๆ มีความดันเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันปัจจัยภายนอกร่างกายจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะยืนนานหรือยกของหนักก็เป็นผลที่ทำให้ลิ้นเล็ก ๆ นี้เสื่อมสภาพได้เช่นกัน ทำให้เลือดคั่งจนผนังเส้นเลือดดำยิ่งขยายโป่งออกไป ลิ้นในเส้นเลือดก็ปิดกั้นได้ไม่สนิท มีโอกาสที่การไหลเวียนของเลือดดำลดลง เกิดการคั่งค้างที่เรื้อรังมากขึ้น หากสาว ๆ ยิ่งเห็นเส้นเลือดดำชัดเจนมากเท่าไหร่แสดงว่ามีการยืดขยายและโป่งพองออกมากเท่านั้น
อาการมันเป็นอย่างไรไหนบอกซิ
สำหรับอาการเบื้องต้นของโรคเส้นเลือดขอดในระยะเริ่มต้นมักจะเห็นได้จากเส้นเลือดมีความโป่งพอง นูนออกมา มีความคดเคี้ยวไปมา ทำให้เห็นเป็นลายเส้นสีเขียวคล้ำ ๆ ที่อยู่ใต้ผิวหนัง แต่จะมีจำนวนมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงที่เป็น บางคนมองเห็นเป็นตัวหนอน บางคนรู้สึกเหมือนเป็นไส้เดือน ซึ่งไม่ว่าจะเห็นเป็นอะไรหรือมีขนาดใหญ่เพียงใดจะไม่มีอาการเจ็บปวดใด ๆ เกิดขึ้นเลยยกเว้นเสียแต่เกิดจากการตั้งครรภ์ เพราะว่านอกจากจะพบที่บริเวณต้นขาและน่องแล้ว อาจจะพบได้ที่บริเวณช่องคลอดด้วย หากเป็นมากจะทำให้เกิดอาการปวดหน่วงในท้อง รวมไปถึงเท้าบวมเมื่อต้องยืนหรือนั่งอยู่กับที่นาน ๆ สามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้ด้วยการนอนราบและยกขาขึ้นสูง
ขอบคุณภาพจาก Google
ปัจจัยเรื่องอายุ
ยิ่งอายุมากก็มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้สูงมาก ด้วยลักษณะของโรคนี้มักเกิดกับผู้สูงอายุอยู่แล้ว มีตัวเลขการวิจัยที่ศึกษาแล้วพบว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปมักจะพบโรคนี้ได้ถึง 70%
ปัจจัยเรื่องเพศ
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าผู้หญิงมีโอกาสเป็นเส้นเลือดขอดมากว่าผู้ชายถึง 3 เท่า ด้วยเพศหญิงนั้นมีประจำเดือนที่จะต้องเพิ่มความดันในช่องทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ และการตั้งครรภ์ทำให้ฮอร์โมนเพศที่มีส่วนช่วยในการคงความยืดหยุ่นของผนังเส้นเลือดเสื่อมประสิทธิภาพลงได้ โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือนตามธรรมชาติ
ปัจจัยเรื่องพันธุกรรม
หากมีคนในครอบครัวเผชิญโรคเส้นเลือดขอดอยู่ โอกาสที่จะพบโรคนี้ได้จะสูงขึ้นอีกประมาณ 2 เท่าเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้อยู่ในข่ายต้องสงสัย เช่น น้ำหนักเกินมาตรฐาน หรือยกของหนักและประกอบอาชีพที่ยืนนาน ๆ ก็ตาม
ปัจจัยเรื่องเชื้อชาติ
โรคนี้มักจะพบได้จากคนตะวันตกสูงกว่าคนเอเชีย มีรายงานที่น่าสนใจบอกเอาไว้ว่าเป็นเพราะอาหารที่กินอยู่ทุกวัน อาหารกับเส้นเลือดขอดจึงมีวามสัมพันธ์กันอย่างแทบไม่น่าเชื่อ เมื่อพิจาณาจากจำนวนแล้วพบว่าใน 100 คนตะวันตก จะเป็นเส้นเลือดขอด 12 คนโดยประมาณ ตรงข้ามกับการพบในคนเอเชียที่พบได้น้อยกว่า อาจจะ 2-5 คนจาก 100 คนเท่านั้น ถือว่าเป็นอุบัติการณ์ที่ต่ำกว่ามาก
ปัจจัยเรื่องอาชีพ
การทำงานเป็นมากกว่า 70% ของชีวิต ทำให้มีผลกระทบต่อร่างกายเสมอ อาชีพที่เสี่ยงกับโรคเส้นเลือดขอดคืออาชีพที่ต้องยืนหรือนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ รวมถึงคนที่ต้องยกของหนักอยู่ตลอดเวลาแทบจะทั้งวัน ทำให้เส้นเลือดมีเลือดไปคั่งสะสมอยู่จำนวนมาและเรื้อรังในที่สุด
ปัจจัยเรื่องน้ำหนัก
ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตามหากมีน้ำหนักตัวสูงเกินค่ามาตรฐานมีโอกาสเกิดเส้นเลือดขอดได้ง่าย เพราะว่ามีความดันในช่องท้องเพิ่มสูงมากขึ้น
ปัจจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน
การกินยาเม็ดคุมกำเนิดถือเป็นการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่ชัดเจนที่สุด รวมถึงวัยรุ่น, คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมีปริมาณของเลือดที่เพิ่มขึ้นทำให้เส้นเลือดขยายตัว น้ำหนักของครรภ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่ส่งผลให้เกิดการเพิ่มความดันในช่องท้องและไปกดเส้นเลือด และคุณแม่คุณยายวัยทองด้วยเช่นกันที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progestertone) ออกมา ทำให้ผนังเส้นเลือดดำเสียความยืดหยุ่นไป
ปัจจัยเรื่องการออกกำลังกาย
สำหรับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยชอบการออกกำลัง หรือไม่มีเวลาที่จะออกกำลังกายจะส่งผลเสียอย่างมากจากการไม่เคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อขาเสื่อมประสิทธิภาพลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพยุงเส้นเลือดดำให้คงสภาพ อีกทั้งช่วยให้การไหลเวียนของเลือดที่ขาทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
ปัจจัยเรื่องโรคประจำตัว
การเจ็บป่วยเมื่อเกิดขึ้นกับร่างกายแล้วย่อมเกิดผลกระทบไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างผู้ป่วยโรคหัวใจ, ผู้ที่ผ่านผ่าตัดโดยเฉพาะบริเวณสะโพกมาก่อน รวมถึงผู้ที่มีประวัติขาบวมและมีเส้นเลือดดำที่ขาอุดตันก็มีโอกาสที่จะเป็นเส้นเลือดขอดได้ แม้แต่ผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังอีกด้วย เนื่องจากต้องออกเร่งเบ่งอุจจาระเป็นประจำ ส่งผลให้แรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้นนั่นเอง
บทความโดย PG999SLOT