ลดเซลลูไลท์ด้วยอาหารที่หลากหลาย

เคยสังเกตร่างกายของตนเองหรือไม่ เมื่อทำการสังเกตแล้วอาจจะพบ ว่าต้นขา ต้นแขน รวมไปถึงหน้าท้องนั้นมีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก ซึ่งไขมันที่สะสมบริเวณต่าง ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกและผิวหนังเกิดการเสียดสีกันมากเกินไปซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าหากมีการสะสมไขมันมากเกินความพอดีก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาได้ ทำให้เกิดปัญหาไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง แขนและขา ปัญหาผิวแตกลายซึ่งเกิดจากการที่ไม่ไขมันสะสมบริเวณนั้นมากเกินไป จนทำให้ผิวหนังเกิดการขยายตัวเป็นต้น

ทำความรู้จักกับเซลลูไลท์

เซลลูไลท์ คือ ไขมันรูปแบบหนึ่งที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนัง แต่เป็นไขมันส่วนเกินที่ร่างกายไม่ได้นำมาใช้ในการป้องกันผิวไม่ให้กระทบกับกระดูกที่อยู่ภายใน ซึ่งเมื่อมีไขมันสะสมในร่างกายมากเกินความพอดีกับที่ร่างกายต้องการจะทำให้ผิวหนังชั้นนอกได้แสดงออกว่าขณะนี้กำลังมีไขมันส่วนเกินออกมา โดยจะมีลักษณะเป็นริ้ว ๆ และเป็นรอยบุ๋ม คล้าย ๆ กับเปลือกส้ม จึงมีการเรียกผิวที่เกิดเซลลูไลท์ว่าผิวเปลือกส้ม 

ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash

ลดเซลลูไลท์ด้วยอาหารที่มีประโยชน์ 

สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับผิวเปลือกส้ม หรือผิวเซลลูไลท์ ไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าบทความนี้จะนำเสนออาหารที่มีประโยชน์และสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย ความแข็งแรงให้แก่ผิวได้ 

1. ปลาแซลมอน

ถ้าหากต้องการที่จะลดเซลลูไลท์ออกจากร่างกาย อาหารชนิดแรกที่ควรจะเลือกรับประทานจะต้องเป็นปลาแซลมอนอย่างแน่นอน เนื่องจากในปลาแซลมอนจะมีสารอาหารที่สำคัญที่ช่วยลดเซลลูไลท์ ซึ่งเกิดมาจากที่ร่างกายมีสารอนุมูลอิสระมากเกินไป เมื่อร่างกายมีสารอนุมูลอิสระมากเกินไปจะทำให้เกิดการสร้างเซลลูไลท์รวมไปถึงการสร้างริ้วรอยต่าง ๆ ให้แก่ร่างกาย ทั้งริ้วรอยที่ผิวหน้า ทั้งการเหี่ยวย่นที่ผิวกาย เพราะฉะนั้นจะต้องเลือกรับประทานปลาแซลมอนซึ่งในปลาแซลมอนมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีกรดอะมิโน มีโอเมก้า 3 ที่ช่วยในการลดเลือนริ้วรอย ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว สร้างความแข็งแรงให้แก่ผิวกาย ลดความต้องการที่จะรับประทานอาหาร ขับสารพิศออกจากร่างกายและช่วยการทำงานของระบบประสาท ระบบไหลเวียนเลือด

2. พริก

ผักที่เรียกได้ว่าหาง่าย และส่วนใหญ่แล้วจะมีการซื้อเก็บไว้ในบ้าน การรับประทานพริกเป็นประจำจะสามารถช่วยลดเซลลูไลท์ ซึ่งในพริกมีทั้งวิตามินบี 6 และสารแคปไซโตซิน ที่ช่วยในเรื่องของการเผาผลาญของร่างกาย รวมไปถึงช่วยในการปกป้องเซลล์ผิวต่าง ๆ ไม่ให้เกิดริ้วรอย และไม่ทำให้เกิดรอยบุ๋มที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังช่วยในการลดไขมัน ช่วยเร่งให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญและล้างสารพิษออกจากร่างกาย เพื่อป้องกันผิวไม่ให้เกิดเซลลูไลท์ตามผิวหนังและเป็นปัญหาผิวในอนาคต

3. เมล็ดทานตะวัน

สำหรับเมล็ดทานตะวันสามารถหาซื้อได้ง่าย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นเมล็ดดอกทานตะวันที่เด็กมาจากต้น สามารถเลือกรับประทานเมล็ดทานตะวันอบแห้งได้ ซึ่งในเมล็ดทานตะวันจะมีสารอาหารที่สำคัญ ได้แก่ วิตามินอี วิตามินบี 6 ซิงส์ โปรตีน และโพแทสเซียมทมี่ช่วยในการบำรุงผิว รวมไปถึงป้องกันผิวไม่ให้เกิดเซลลูไลท์ ช่วงเร่งการเผาผลาญเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย เพื่อไปช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

4. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

ถ้าหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผิวพรรณ จะต้องมีชื่อของผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่อย่างแน่นอน เนื่องจากในผลไม้ในตระกูลนี้มีสารอาหารที่สำคัญต่อผิว ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี และยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญในการบำรุงผิว นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยและเซลลูไลท์บนร่างกายได้ ทำให้ผิวกระจ่างใส เรียบเนียนไม่ทำให้เกิดการสะสมไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าหากไม่ต้องการให้ร่างกายเกิดเซลลูไลท์จะต้องเลือกรับประทานผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่สีเข้ม เช่น บลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ เป็นต้น

5. ชาเขียวและชาสมุนไพร

ผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาเขียวร้อน หรือชาสมุนไพร อาทิเช่น ชาแดนดิไลอัน ชาคาร์โมมาย เป็นประจำจะทำให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอ และจะไม่ทำให้เกิดริ้วรอยที่ผิว รวมไปถึงลดการเกิดเซลลูไลท์ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดผิวเปลือกส้มได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายเร่งการเผาผลาญ ขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย เนื่องจากร่างกายของคนจะได้รับสารพิษจากสิ่งที่รับประทานเข้าไปในร่างกาย รวมไปถึงการเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้เกิดการสะสมสารพิษแบบไม่รู้ตัว หากรับประทานชาเขียวร้อนหรือชาสมุนไพรเป็นประจำก็จะสามารถล้างสารพิษออกจากร่างกาย รวมไปถึงช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่สึกหรอ และกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

6. น้ำมันมะกอก

ถ้าหากการทำอาหารปกติเลือกใช้แต่น้ำมันถั่วเหลืองแล้วมีปัญหาเกี่ยวกับเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม ควรจะทำการเปลี่ยนมาเป็นน้ำมันมะกอก ที่มีความสำคัญในการลดเซลลูไลท์ออกจากร่างกาย น้ำมันมะกอกเป็นกรดไขมันรูปแบบหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังมีสารโพลีฟีนอล ที่ช่วยในการบำรุงร่างกายและยังช่วยปรับสมดุลให้แก่การทำงานของระบบไทรอยด์ในร่างกาย ถ้าหากระบบไทรอยด์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะช่วยให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญและขับถ่ายของเสียรวมถึง

สารพิษออกจากร่างกายได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่และกำจัดเซลล์ผิวเก่าออกจากร่างกาย ถ้าหากรับประทานน้ำมันมะกอกเป็นประจำจะไม่ทำให้เกิดริ้วรอย ผิวมีความเรียบเนียน กระชับและกระจ่างใส 

บทความโดย PG999SLOT