ปัญหาด้านการเงิน เป็นเรื่องที่สามารถประสบได้กับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ต้องเจอกับวิกฤตสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้หลาย ๆ คนมีรายได้ลดลง ถูกปรับลดเงินเดือน หรือร้ายแรงถึงขั้นถูกให้ออกจากงาน จนกลายเป็นคนตกงานไปโดยปริยาย แต่ในขณะเดียวกันเรายังคงมีหนี้บัตรเครดิตที่ต้องผ่อนชำระทุกเดือน เมื่อรายรับลดลงหรือไม่มี แต่รายจ่ายกลับเท่าเดิม จึงทำให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งการแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตนั้น สามารถทำได้ด้วยการขอสินเชื่อเพื่อปิดบัตรเครดิตนั่นเอง สินเชื่อปิดบัตรเครดิตของธนาคารไหนบ้างที่ให้วงเงินสูงและมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ให้เราสามารถชำระหนี้ได้และแก้ปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้ดีที่สุด มีตัวไหนบ้างมาดูกันเลย
สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาหนี้บัตรเครดิต จนรู้สึกว่าไม่สามารถรับภาระของอัตราดอกเบี้ยอันแสนแพงได้ การขอสินเชื่อเพื่อปิดบัตรเครดิตหรือรีไฟแนนซ์นั้น เป็นวิธีที่จะช่วยจัดการกับปัญหานี้ได้ และสินเชื่อที่ดีและน่าสนใจนั้น มีดังนี้
สินเชื่อของธนาคารทหารไทย ที่ให้วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือไม่เกิน 1,500,000 บาท และคิดอัตราดอกเบี้ยเริ่มที่ 14-28% ต่อปี สำหรับพนักงานบริษัทที่มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท และดอกเบี้ย 19-28% ต่อปี สำหรับเจ้าของกิจการที่มีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาท โดยมีระยะเวลาในสัญญาสูงสุด 5 ปี และอัตราดอกเบี้ยนั้นจะผันแปรตามรายได้ของผู้ทำสัญญากู้ นอกจากนี้หากใครที่รับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารทหารไทยด้วยแล้ว สามารถรับดอกเบี้ยพิเศษ 9% ต่อปี ตลอด 3 เดือนแรกอีกด้วย
สินเชื่อของธนาคารยูโอบี ที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก และให้วงเงินสูงถึง 1,500,000 บาท โดยอัตราดอกเบี้ยสำหรับพนักงานบริษัทที่มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท จะอยู่ที่ 16.99-24.99% ต่อปี ส่วนเจ้าของกิจการมีรายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 21.99-24.99% ต่อปี โดยมีระยะเวลาในสัญญาสูงสุด 5 ปี และมีค่าธรรมเนียม 0.05% ของวงเงินได้รับอนุมัติ นอกจากนี้ หากกู้เงินปิดบัตรเครดิตไปแล้วแต่เกิดเปลี่ยนใจ สามารถยกเลิกวงเงินได้ภายใน 7 วันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สินเชื่อของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ที่เหมาะกับพนักงานประจำที่มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ให้วงเงินสูงสุด 1,500,000 บาท และวงเงินสำหรับเจ้าของกิจการสูงสุด 1,000,000 บาท โดยมีระยะเวลาในสัญญาสูงสุด 5 ปี และคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก โดยพนักงานบริษัทจะคิดดอกเบี้ย 9-28% ต่อปี และเจ้าของกิจการจะคิดดอกเบี้ย 25-26% ต่อปี สำหรับเจ้าของกิจการนั้น ต้องมีรายได้ขั้นต่ำอยู่ที่ 30,000 บาท เป็นสินเชื่อที่ผ่อนจ่ายรายเดือนน้อยและไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อของธนาคารกรุงศรี สำหรับคนมีรถยนต์ ที่อนุมัติง่ายและดอกเบี้ยต่ำ สามารถยื่นเรื่องขอกู้ได้ด้วยการนำเอาหลักทรัพย์อย่างรถยนต์ไปค้ำประกัน และแลกเป็นสินเชื่อปิดบัตรเครดิตดอกเบี้ยต่ำ โดยมีระยะเวลาในสัญญาสูงสุดถึง 7 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมตลอดระยะเวลา เริ่มต้นเพียง 0.27% ต่อเดือน โดยเลือกได้ทั้งแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอก และแบบดอกเบี้ยคงที่ วงเกินกู้ไม่เกิน 100% จากราคาประเมินรถยนต์ รับรถยนต์อายุใช้งานนานสูงสุด 15 ปี โดยที่ผู้ขอกู้ยังสามารถนำรถยนต์ไปใช้ได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นรถยนต์ของตัวเองเท่านั้น เป็นสินเชื่อที่เหมาะกับคนที่มีรถและต้องการนำเงินมาปิดบัตรเครดิต
สินเชื่อของธนาคารกรุงไทย เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์พร้อมใช้แบบมีกำหนดระยะเวลา ที่ให้วงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท หรือ 5 เท่าของรายได้ เพียงรับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย และมีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 13.87% ต่อปี สำหรับพนักงานบริษัทที่มีรายได้ขั้นต่ำ 30,000 บาท จะคิดดอกเบี้ย MRR + 7% ต่อปี มีระยะเวลาในสัญญาสูงสุด 5 ปี และไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
สินเชื่อของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน เป็นสินเชื่อที่ปรับได้ตามใจ ว่าต้องการผ่อนชำระเท่าไหร่ และชำระวันไหนของเดือน ให้วงเงินสูงสุด 2,000,000 บาท และมีระยะเวลาในสัญญาสูงสุดไม่เกิน 60 งวด สำหรับรายเดือน หรือ 130 งวดสำหรับรายสองสัปดาห์ และคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก อยู่ที่ระหว่าง 10-25% ต่อปี
สินเชื่อของธนาคารออมสิน ที่ให้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท กรณีที่มีบุคคลค้ำประกัน และวงเงินสูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท กรณีที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยมีหลักเกณฑ์ คือ ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ที่ดินพร้อมอาคาร, ไม่เกิน 85% ของราคาประเมินห้องชุด และไม่เกิน 80% ของราคาประเมินที่ดิน โดยมีระยะเวลาในสัญญาสูงสุดไม่เกิน 7 ปี สำหรับเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาท และระยะเวลาในสัญญาสูงสุดไม่เกิน 25 ปี สำหรับเงินกู้เกิน 300,000 บาท และมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 8.5% ต่อปี รายได้ขั้นต่ำสำหรับข้าราชการจะอยู่ที่ 18,000 บาท และรายได้ขั้นต่ำสำหรับพนักงานบริษัทหรือเจ้าของกิจการจะอยู่ที่ 30,000 บาท
สินเชื่อทั้ง 7 แบบของแต่ละธนาคารที่เอามาแนะนำนั้น ก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป สำหรับใครที่กำลังสนใจสินเชื่อปิดบัตรเครดิต ลองพิจารณาสินเชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ดู โดยคำนึงถึงวงเงิน ดอกเบี้ย ระยะเวลาในการชำระ และเงื่อนไขอื่น ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการชำระหนี้คืนของเรามากที่สุด เพื่อที่จะได้นำเงินกู้ไปจัดการใช้หนี้ปิดบัตรเครดิตให้เรียบร้อย ซึ่งหากเราสามารถจัดการได้ดีก็อาจมีเงินเหลือในการนำไปใช้จ่ายอย่างอื่นตามที่ต้องการได้อีกด้วย