นอกเหนือจากคิ้วที่มีรอยย่นอยู่ตลอดเวลาและรอยคล้ำใต้ตาเนื่องจากการนอนไม่หลับที่เกิดจากความเครียด ความเครียดยังกระตุ้นการตอบสนองต่อการไหลเวียนของระบบโลหิตซึ่งทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะสำคัญที่จำเป็นสำหรับร่างกาย หัวใจ ปอดหรือสมอง เนื่องจากการเปลี่ยนเส้นทางของเลือดจึงไม่ส่งผลต่อผิว ความเครียดยังทำให้ระดับของอะดรีนาลีนและคอร์ติซอลสูงขึ้น ซึ่งฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะส่งผลต่อผิวพรรณทำให้ผิวเราไม่สดใสอีกด้วย การไหลเวียนโลหิตน้อยลงจะนำไปสู่การขาดออกซิเจนและสารอาหารที่สำคัญอื่น ๆ ในผิว ซึ่งหมายถึงการผลิตสารต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อผิวได้น้อยลง เช่น คอลลาเจน สารต้านอนุมูลอิสระ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนหมายถึงระบบต่อมไร้ท่อที่ผิดปกติและระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายซึ่งมีผลต่อผิวพรรณเช่นกัน
คุณจะรู้ได้ทันที หากคุณรู้สึกเครียดทั้งจิตใจและอารมณ์ ทั้งหมดนี้เกือบจะรับประกันได้ว่าผิวของคุณก็จะรู้สึกด้วยเช่นกัน หากคุณไม่แน่ใจให้ตรวจสอบผิวพรรณของคุณ เกิดสิ่งแปลก ๆ บนผิวหนังของเราหรือไม่ ผิวเรามีการทำงานที่ผิดปกติหรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของความชื้น น้ำมันและพื้นผิวหนังที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมหรือผลิตภัณฑ์หรือไม่ ความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ นี้อาจเป็นปฏิกิริยาต่อสิ่งที่ทำให้คุณเครียด
1. สิว สิวทุกประเภทที่อยู่บนใบหน้าเราที่ไม่ได้เกิดจากรอบเดือนที่ใกล้เข้ามาหรือปัญหาการแพ้ครีมบำรุงผิวหน้าใด ๆ ก็ต้องลองหันมาดูที่ความเครียดกันบ้าง สารคอร์ติซอลคือฮอร์โมนแห่งความเครียดที่สามารถทำให้ผิวหน้าของเรามีความมันเพิ่มมากขึ้นและการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นทำให้เกิด การระคายเคืองต่อผิว ส่งผลให้เกิดสิวและปัญหาผิวอักเสบอื่น ๆ เช่น กลากและเกลื้อน เป็นต้น วิธีแก้ปัญหาผิวหน้ามันและเต็มไปด้วยสิวให้พยายามกำจัดน้ำมันส่วนเกิดออกจากใบหน้าของคุณให้ได้มากที่สุด โดยการใช้โทนเนอร์และมีการสครับผิวหน้าเป็นประจำเพื่อผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก ป้องกันการอุดตันรูขุมขนอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ เมื่อสครับผิวหน้าแล้วควรมีการบำรุงผิว เลือกครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้จิตใจของคุณผ่อนคลายได้มากขึ้น เป็นการลดความเครียดไปในตัวอีกด้วย
2. รอยคล้ำใต้ดวงตา หนึ่งในสิ่งแรกที่สับสนระหว่างช่วงเวลาที่เครียดคือการนอนหลับ คุณตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืนโดยคิดถึงสิ่งที่ทำให้คุณเครียดและจากนั้นคุณก็เครียดมากขึ้นจนพบว่าคุณไม่ได้นอนเลยทั้งคืน ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำใต้ดวงตาราวกับหมีแพนด้า ความเครียดนี้เป็นเพราะฮอร์โมนคอร์ติซอลอย่างไม่ต้องสงสัยเลย วิธีแก้ปัญหารอยบวมและรอยคล้ำใต้ตานั้นไม่ยาก เพียงแค่ลองมองหาครีมบำรุงผิวรอบดวงตาดี ๆ ที่มีส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลัก นอกจากนี้การมาส์กใต้ตาด้วยแตงกวาฝานบาง ๆ ก็จะทำให้ผิวหน้าเราผ่อนคลายและรู้สึกสดชื่นมากขึ้น อาการบวมที่ใต้ตาก็จะลดลงไปด้วย
3. ผิวหมองคล้ำ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ความเครียดส่งผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ไม่เต็มที่ ในกรณีของผิวหมองคล้ำเกิดจากการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงตามผิวหนังได้ไม่เต็มที่ นั่นหมายถึงการหมุนเวียนของเซลล์น้อยลงส่งผลให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและทำให้เกิดความหมองคล้ำ เพื่อให้เซลล์ผิวเหล่านั้นได้รับแรงผลักดันที่จำเป็นจะต้องกำจัดสิ่งเหล่านั้นออก คุณจะต้องมีการสครับผิวที่มีส่วนผสมต่าง ๆ เช่น กรดผลไม้หรือสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ สครับผิวหนังเป็นประจำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสและมีสุขภาพดีมากขึ้น อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งหลังสครับผิวด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash
1. ถ้าคุณเข้านอนทั้ง ๆ ที่หน้ายังเต็มไปด้วยเครื่องสำอาง
ในแต่ละวัน คุณหมดแรงและสิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือใช้เวลาในชำระล้างร่างกายและบำรุงผิวก่อนนอน ถ้าคุณสามารถทำได้ทุกวันจะดีมาก ๆ แต่ถ้าวันไหนที่คุณหมดแรงจริง ๆ ก็ต้องมีบ้างที่ไม่ได้ทำ หากคุณไม่สามารถพาตัวเองไปทำกิจวัตรตอนกลางคืนได้ทั้งหมด อย่างน้อย ๆ ก็ให้ใช้คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางออกให้หมดแล้วล้างหน้าก่อนที่จะกระแทกตัวลงบนเตียงนอนนุ่ม ๆ เมื่อคุณตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นในตอนเช้าให้ทำความสะอาดใบหน้าอีกรอบในตอนเช้าก่อนที่จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตอนกลางวันของ
คุณ
2. หากคุณไม่สามารถดื่มน้ำให้เพียงพอในระหว่างวันได้
การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อผิวพรรณและร่างกายของคุณ การพบขวดน้ำไปด้วยจะช่วยได้และดาวน์โหลดแอพพลิเคชันที่เตือนให้คุณดื่มน้ำทุกชั่วโมง การดื่มน้ำมาก ๆ จะทำให้ผิวพรรณของเราดูชุ่มชื้นและสดใส นอกจากนี้คุณยังสามารถกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดด้วยการเพิ่มส่วนผสมต่าง ๆ ลงไปในน้ำที่เราดื่ม เช่น ใบสะระแหน่ โรสแมรี่และโสม ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนและนำออกซิเจนไปยังผิวที่แห้งกร้าน
3. หากเมื่อคืนคุณปาร์ตี้หนักเกินไป
ฃการดื่มเหล้านั้นส่งผลให้ปริมาณน้ำในร่างกาลลดลงและทำให้สารต้านอนุมูลอิสระจากผิวหนังลดลง คุณจึงต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการบวมจากการดื่มแอลกอฮอล์ หากคุณสามารถจัดการกับมันได้ให้เริ่มด้วยการจุ่มหน้าลงในอ่างหรือชามที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง สิ่งนี้จะทำให้คุณสดชื่นมากขึ้น เส้นเลือดฝอยดหัวลงและกระตุ้นการระบายน้ำเพื่อต่อสู้กับอาการบวมบนใบหน้า จากนั้นใช้มาส์กเพิ่มความชุ่มชื้นและความอวบอิ่มตามด้วยเซรั่มบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกเพื่อขัดเซลล์ผิวที่แห้งกร้าน
4. หากคุณดูเน็ตฟลิกซ์จนเช้าและได้นอนเพียงแค่ 3 ชั่วโมง
การนอนหลับไม่เพียงพอสามารถสร้างความเสียหายได้มากเกินกว่าผิวที่หมองคล้ำและใต้ตาที่ดำคล้ำ การนอนหลับเป็นเวลาที่ผิวของคุณซ่อมแซมและเพิ่มความชุ่มชื้น ซึ่งหมายความว่าใบหน้าของคุณต้องการความชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก ก่อนอื่นจงทำให้ตัวคุณเอง (และผิวของคุณ) ตื่นขึ้นด้วยการอาบน้ำเย็นเพื่อให้เลือดไหลเวียน จากนั้นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น เช่น เซรั่ม บาล์มหรือครีม หากคุณเก็บอายครีมไว้ในตู้เย็น ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้ อุณหภูมิที่เย็นจะช่วยลดอาการบวมใต้ตาได้
บทความโดย PG999SLOT